Skip to Content

เทคนิค การประเมินการเงิน ส่วนบุคคล

18 ตุลาคม ค.ศ. 2024 โดย
Admin

เทคนิค การประเมินการเงิน ส่วนบุคคล


      เทคนิค การประเมินการเงิน ส่วนบุคคล สวัสดีค่ะ! โค้ชยูริเชื่อว่าหลายคนยังคงติดอยู่ในวงจรการเงินที่ทำให้รู้สึกเครียดและไม่สามารถเติบโตได้ตามที่ฝันไว้ บางครั้งความไม่รู้เกี่ยวกับสถานะการเงินของตัวเองอาจเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุด วันนี้โค้ชจะพาคุณมารู้จักกับ เทคนิคการประเมินการเงินส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความเข้าใจการเงินของตัวเองอย่างแท้จริงและพร้อมที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกันค่ะ



เทคนิค การประเมินการเงิน ส่วนบุคคล

1. ทำความเข้าใจกับสถานะการเงินปัจจุบันของคุณ  

2. ประเมินสุขภาพการเงินผ่าน 3 ตัวชี้วัดสำคัญ  

3. กำหนดเป้าหมายการเงินด้วยหลัก SMART  

4. ใช้จิตวิทยาเชิงบวกและ NLP ในการเปลี่ยนพฤติกรรมการเงิน  

5. เทคนิคการวางแผนปฏิบัติจริง  



1. ทำความเข้าใจกับสถานะการเงินปัจจุบันของคุณ  


> “การรู้จักตัวเองคือก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลง”  


- จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย: เริ่มต้นด้วยการจดบันทึกทุกค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณอย่างละเอียด เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และหนี้สิน  

- คำนวณรายได้สุทธิ: รวบรวมรายได้จากทุกแหล่ง หักด้วยภาษีและค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เพื่อให้คุณทราบว่ามีเงินเหลือเท่าไรต่อเดือน  

- วิเคราะห์กระแสเงินสด (Cash Flow): ตรวจสอบว่าคุณมีเงินเหลือเก็บทุกเดือนหรือใช้จ่ายมากกว่าที่หาได้


คำถาม: คุณรู้หรือไม่ว่าเดือนที่ผ่านมาคุณใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง?  



2. ประเมินสุขภาพการเงินผ่าน 3 ตัวชี้วัดสำคัญ  


1. อัตราส่วนการออม: 

   - เป้าหมาย: ควรออมอย่างน้อย 20% ของรายได้สุทธิ  

   - คำถาม: คุณออมเงินได้มากน้อยแค่ไหนจากรายได้ปัจจุบัน?


2. ระดับหนี้สิน:  

   - หากหนี้ของคุณเกิน 40% ของรายได้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าควรปรับแผนการใช้จ่าย  

   - เทคนิค: ใช้กฎ 50/30/20 ในการจัดสรรรายได้ (50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น, 30% สำหรับความต้องการ, 20% สำหรับการออม)


3. กองทุนสำรองฉุกเฉิน:  

   - คุณมีเงินสำรองเทียบเท่าค่าใช้จ่าย 3-6 เดือนหรือไม่? ถ้าไม่ใช่ การเริ่มเก็บเงินก้อนนี้ควรเป็นอันดับแรก  



3. กำหนดเป้าหมายการเงินด้วยหลัก SMART  


การตั้งเป้าหมายการเงินที่ดีควรเป็นไปตามหลัก SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound):


- เจาะจง: อย่าแค่บอกว่าอยากรวย แต่ระบุว่าอยากมีเงินออม 500,000 บาทภายใน 2 ปี  

- วัดผลได้: ติดตามความคืบหน้าเป็นรายเดือน  

- ทำได้จริง: วางแผนให้สอดคล้องกับรายได้และความสามารถ  

- เกี่ยวข้องกับชีวิต: เป้าหมายต้องมีความหมายและเชื่อมโยงกับความสุขของคุณ  

- กำหนดระยะเวลา: ตั้งเดดไลน์เพื่อสร้างความชัดเจน  


ตัวอย่าง: "ฉันต้องการปลดหนี้สินภายใน 1 ปี โดยเพิ่มรายได้เสริม 10,000 บาทต่อเดือน"



4. ใช้จิตวิทยาเชิงบวกและ NLP ในการเปลี่ยนพฤติกรรมการเงิน  


จิตวิทยาเชิงบวกช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสแทนที่จะจมอยู่กับปัญหา ขณะที่ Neuro-Linguistic Programming (NLP) สามารถช่วยปรับ Mindset ของคุณ ดังนี้:  


- เปลี่ยนความคิดลบ: แทนที่จะคิดว่า "ฉันไม่มีทางออมเงินได้" ให้เปลี่ยนเป็น "ฉันกำลังเรียนรู้วิธีออมเงินที่เหมาะกับตัวเอง"  

- สร้างนิสัยใหม่ด้วยการตั้งโปรแกรมสมอง: ลองจินตนาการถึงความสำเร็จที่คุณอยากเห็น เช่น การปลดหนี้ หรือมีเงินออมตามที่ตั้งใจ  

- ให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมายเล็กๆ: เพื่อสร้างแรงกระตุ้นในการเดินหน้าต่อ  



5. เทคนิคการวางแผนปฏิบัติจริง  


- ใช้แอปพลิเคชันช่วยบันทึกการใช้จ่าย: เช่น แอปการเงินส่วนบุคคลเพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพรวมการเงินในแต่ละวัน  

- วางแผนรายจ่ายล่วงหน้า: สร้างงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือน  

- ลงทุนเพื่ออนาคต: พิจารณาการลงทุนในกองทุนรวม หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์  


คำถาม: คุณเคยลองวางแผนการเงินระยะยาวหรือยัง? อะไรคือเป้าหมายสูงสุดของคุณ?



สรุป

   การประเมินการเงินส่วนบุคคลเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ก้าวเล็กๆ เหล่านี้จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ โค้ชยูริขอเชิญคุณลงมือทำตั้งแต่วันนี้ค่ะ! เริ่มจดบันทึกรายจ่าย ตั้งเป้าหมาย SMART และปรับ Mindset ของคุณ ด้วยการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถสร้างอนาคตที่มั่นคงและมีความสุขได้แน่นอนค่ะ  



Call-to-Action  

   อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองได้ที่ www.coachyuri.com  ติดตามเทคนิคและแรงบันดาลใจดีๆ ได้ที่ TikTok: Coach Yuri แล้วคุณล่ะ พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วยกันหรือยัง?