กฎทอง ในการสร้างนิสัย การออมเงิน อย่างยั่งยืน
กฎทอง ในการสร้างนิสัย การออมเงิน อย่างยั่งยืน เคยรู้สึกไหมว่าเงินเดือนเข้ามาไม่นานก็เหมือนเงินหายไปอย่างไร้ร่องรอย? คุณไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ หลายคนพยายามเริ่มต้นออมเงิน แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกเพราะขาดวินัยหรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร โค้ชอยากบอกว่า "การออมเงิน" ไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนเงิน แต่เป็นเรื่องของนิสัยและ mindset ที่ถูกต้อง
ในบทความนี้ โค้ชจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 กฎทอง ที่จะช่วยสร้างนิสัยการออมเงินที่ยั่งยืน และเปลี่ยนชีวิตการเงินของคุณให้มั่นคงมากขึ้น
กฎทอง ในการสร้างนิสัย การออมเงิน อย่างยั่งยืน
1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและมีแรงจูงใจ
2. ทำให้ออมเงินเป็นเรื่องอัตโนมัติ
3. ใช้กฎ 80/20 ในการบริหารรายได้
4. สร้างความสุขเล็กๆ จากการออม
5. เรียนรู้และปรับปรุงตลอดเวลา
1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและมีแรงจูงใจ
"เป้าหมายที่ไม่มีแรงจูงใจ ก็เหมือนเข็มทิศที่ไม่มีเข็ม"
เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่า “ทำไมคุณถึงอยากออมเงิน?”
- เพื่อเก็บเงินแต่งงาน?
- เพื่อปลดหนี้?
- หรือเพื่อสร้างความมั่นคงให้อนาคต?
เป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกระตุ้นให้คุณมีแรงจูงใจในการเริ่มต้นและรักษานิสัยนี้ไว้ ลองเขียนเป้าหมายลงในสมุดหรือบันทึกในมือถือ และอย่าลืมตรวจสอบและปรับเป้าหมายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณเสมอ
เทคนิคเสริม:
- ใช้หลัก Visualization ลองจินตนาการว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นอย่างไรเมื่อถึงเป้าหมาย เช่น ภาพตัวเองที่มีเงินเก็บมากพอสำหรับเดินทางรอบโลก
- ตั้งเป้าหมายแบบ SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound)
2. ทำให้ออมเงินเป็นเรื่องอัตโนมัติ
"ถ้าคุณต้องตัดสินใจทุกครั้งว่าควรออมเงินเท่าไหร่ ความสำเร็จจะยากขึ้น"
วิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างนิสัยคือการทำให้นิสัยนั้น "อัตโนมัติ" โค้ชแนะนำให้คุณตั้งระบบ หักเงินออมอัตโนมัติ ไปยังบัญชีออมทรัพย์ เช่น
- กำหนดให้ธนาคารหัก 10%-20% ของรายได้ทุกครั้งที่เงินเดือนเข้าบัญชี
- ใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยหักเงินออม เช่น TMRW, TrueMoney Wallet
เทคนิคเสริม:
- แยกบัญชีออมเงินออกจากบัญชีใช้จ่ายประจำ
- ตั้งชื่อบัญชี เช่น “บัญชีท่องเที่ยวในฝัน” หรือ “บัญชีเพื่อเกษียณ” เพื่อสร้างความผูกพันทางจิตวิทยา
3. ใช้กฎ 80/20 ในการบริหารรายได้
"20% ที่คุณออมวันนี้ อาจเป็น 80% ของความมั่นคงในวันหน้า"
กฎนี้เน้นการจัดสรรรายได้อย่างชาญฉลาด โดยแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วนหลัก:
- 80% ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- 10% ออมเพื่ออนาคต
- 10% ลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าเงิน
การแบ่งเงินในลักษณะนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณมีเงินเก็บ แต่ยังช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ระยะยาว
เทคนิคเสริม:
- ปรับเปอร์เซ็นต์ตามความเหมาะสม เช่น หากคุณมีภาระหนี้สิน ให้ลดส่วนการใช้จ่ายและเพิ่มส่วนออม
- ลองเพิ่มส่วนของการออมเป็น 15%-20% เมื่อคุณมีรายได้เพิ่ม
4. สร้างความสุขเล็กๆ จากการออม
"การออมเงินไม่ควรเป็นเรื่องเครียด แต่ควรเป็นเรื่องที่คุณอยากทำ"
คนส่วนใหญ่มองว่าการออมเงินคือการ "เสียสละ" ซึ่งทำให้รู้สึกฝืน โค้ชอยากให้คุณเปลี่ยนมุมมองใหม่ ลองหาความสุขเล็กๆ จากการออม เช่น
- เก็บเงินเหรียญ 10 บาทลงกระปุกและคอยนับยอดเงินทุกเดือน
- ให้รางวัลตัวเองเล็กๆ เมื่อถึงเป้าหมาย เช่น ซื้อหนังสือเล่มโปรด
เทคนิคเสริม:
- ใช้แอปติดตามการออม เช่น PocketGuard หรือ Money Manager เพื่อสร้างความสนุก
- ตั้ง Challenge เช่น "ออม 100 บาททุกครั้งที่เลื่อน TikTok เกิน 30 นาที"
5. เรียนรู้และปรับปรุงตลอดเวลา
"นิสัยการเงินที่ดีไม่ได้เกิดจากความสมบูรณ์แบบ แต่เกิดจากการพัฒนาที่ต่อเนื่อง"
การออมเงินเป็นกระบวนการที่ต้องเรียนรู้และปรับตัว ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในครั้งแรก คุณอาจเผลอใช้เงินเกินไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือการกลับมาเริ่มต้นใหม่
วิธีการเรียนรู้:
- อ่านหนังสือเกี่ยวกับการเงิน เช่น “The Richest Man in Babylon”
- ฟังพอดแคสต์ หรือดู TikTok ที่ให้คำแนะนำเรื่องการออม (ติดตามโค้ชยูริได้ที่ TikTok)
เทคนิคเสริม:
- ทบทวนพฤติกรรมการเงินทุกเดือน
- สอบถามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนเรื่องการเงิน
สรุป
การสร้างนิสัยการออมเงินที่ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน มีวินัย และเรียนรู้ที่จะปรับตัวในทุกสถานการณ์ ลองนำ 5 กฎทองเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิต แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า
"เริ่มต้นวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า" ถ้าคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม หรือแรงบันดาลใจใหม่ๆ อย่าลืมติดตามโค้ชยูริที่ TikTok และอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ Coach Yuri คำถามให้คุณคิด "วันนี้ คุณได้ทำอะไรเพื่อสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคงแล้วหรือยัง?"